เลเวอเรจ (Leverage) คืออะไร สูงไปดีหรือไม่ เลือกอย่างดี

การเทรด Forex นั้นมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ Forex Trader ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง เลเวอเรจ คืออะไร เพราะส่งผลโดยตรงต่อกำไรและความเสี่ยงในการลงทุน วันนี้ Ultima Markets จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเลเวอเรจในการเทรด Forex ว่ามีความสำคัญอย่างไร และควรเลือกใช้ระดับใดให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณ

เลเวอเรจ (Leverage) คืออะไร?

เลเวอเรจ (Leverage) คือ เครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมเงินทุนในปริมาณที่มากกว่าเงินลงทุนที่มีอยู่จริง โดยในตลาด Forex นั้น เลเวอเรจคือตัวช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดรายการซื้อขายที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนที่ใช้ในการวางมาร์จิ้น ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน

ตัวอย่างการใช้เลเวอเรจ

หากคุณมีเงินทุน 1,000 ดอลลาร์และใช้เลเวอเรจ 1:100 คุณจะสามารถเปิดรายการซื้อขายมูลค่าสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ได้ เช่น หากคุณต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD และคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น คุณสามารถใช้ แอปเทรด Forex เพื่อซื้อยูโรโดยใช้เงินทุนเพียง 1,000 ดอลลาร์แต่ได้อำนาจซื้อ 100,000 ดอลลาร์

หลักการทำงานของเลเวอเรจ

เลเวอเรจในตลาด Forex ทำงานโดยอาศัยระบบมาร์จิ้น ซึ่งเป็นเงินประกันที่ใช้เพื่อรักษาสถานะการเทรดของคุณ โดยมาร์จิ้นนี้จะถูกคำนวณตามขนาดของ เลเวอเรจที่คุณเลือกใช้

กลไกการใช้เลเวอเรจ

เมื่อคุณเปิดบัญชี Forex และเลือกใช้เลเวอเรจ โบรกเกอร์จะให้คุณ “ยืม” เงินเพื่อเทรดในปริมาณที่มากกว่าเงินทุนของคุณ โดยอัตราส่วนเลเวอเรจมักแสดงในรูปแบบ 1:X โดย X คือจำนวนเท่าของเงินทุนที่คุณสามารถควบคุมได้ ยิ่งตัวเลข X มากเท่าไร ความสามารถในการเทรดของคุณก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

ความสัมพันธ์ของเลเวอเรจกับมาร์จิ้น

มาร์จิ้นและเลเวอเรจมีความสัมพันธ์แบบผกผัน กล่าวคือ ยิ่ง เลเวอเรจ คือ ค่าที่สูง มาร์จิ้นที่ต้องใช้ก็จะยิ่งต่ำ เช่น เลเวอเรจ 1:100 จะต้องใช้มาร์จิ้นเพียง 1% ของมูลค่าการเทรดทั้งหมด ในขณะที่เลเวอเรจ 1:50 จะต้องใช้มาร์จิ้น 2% ซึ่งหากข่าว Forex ส่งผลกระทบต่อตลาด มาร์จิ้นนี้จะมีผลต่อการรักษาสถานะการเทรดของคุณ

วิธีคิดอัตราส่วนเลเวอเรจ

การคำนวณอัตราส่วนเลเวอเรจ เป็นเรื่องที่ Forex Trader ควรเข้าใจเพื่อการวางแผนเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วนเลเวอเรจคำนวณจากมูลค่าการเทรดทั้งหมดหารด้วยเงินทุนที่ใช้ หรือเงินในบัญชี

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินในบัญชี 1,000 ดอลลาร์ และต้องการเทรดในมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ อัตราส่วน เลเวอเรจ คือ 100,000 ÷ 1,000 = 100 หรือแสดงในรูปแบบ 1:100

หรืออีกตัวอย่างคือ หากคุณใช้เงินมาร์จิ้น 500 ดอลลาร์เพื่อเทรดในมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ อัตราส่วน เลเวอเรจ คือ 25,000 ÷ 500 = 50 หรือ 1:50 นั่นเอง

ความหมายของอัตราส่วนเลเวอเรจต่างๆ

• เลเวอเรจ 1:10 ถือเป็นระดับที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น โดยทุก 1 ดอลลาร์ของเงินทุน สามารถควบคุมเงินในตลาดได้ 10 ดอลลาร์
• เลเวอเรจ 1:50 ถือเป็นระดับปานกลางที่นิยมใช้ในตลาด Forex สามารถควบคุมเงินในตลาดได้ 50 เท่าของเงินทุน เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ระดับกลาง
• เลเวอเรจ 1:100 เป็นเลเวอเรจสูงที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะสั้น ให้อำนาจซื้อสูงถึง 100 เท่าของเงินทุน แต่มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงขึ้น
• เลเวอเรจ 1:200 เป็นเลเวอเรจสูงที่มักใช้ในการ Scalping เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
• เลเวอเรจ 1:400 และสูงกว่า ถือเป็นเลเวอเรจสูงมากที่มีความเสี่ยงสูงสุด ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีมาก
• No Leverage (1:1) ไม่มีการใช้เลเวอเรจ เงินทุนที่ใช้เท่ากับมูลค่าการเทรด ปลอดภัยที่สุดแต่มีโอกาสทำกำไรน้อยกว่า

ข้อดีและข้อเสียของเลเวอเรจคือ

การใช้เลเวอเรจในการเทรด Forex นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งเทรดเดอร์ควรพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกระดับ เลเวอเรจ คือ ที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยง

ข้อดีของการใช้เลเวอเรจคือ

• เพิ่มกำลังซื้อ ช่วยให้สามารถเทรดในขนาดที่ใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่จริง
• เพิ่มโอกาสทำกำไร ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเปิดสถานะการเทรดที่ใหญ่ขึ้นได้
• เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น สามารถเทรดคู่เงินหลากหลายด้วยเงินทุนที่จำกัด
• เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนทั้งหมดในการเทรดเพียงคู่เงินเดียว
• ทำให้สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ แม้ราคาเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำกำไรได้

ข้อเสียของการใช้เลเวอเรจคือ

• เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน ขาดทุนจะถูกขยายเช่นเดียวกับกำไร
• เสี่ยงต่อการ Margin Call หากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม อาจถูกเรียกให้เพิ่มเงินหรือปิดสถานะ
• ความผันผวนของตลาดมีผลกระทบสูง แม้ตลาดผันผวนเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้ขาดทุนอย่างรวดเร็ว
• เพิ่มแรงกดดันทางจิตใจ ต้องรับมือกับแรงกดดันที่มากขึ้นเมื่อใช้ เลเวอเรจสูง
• อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล ความรู้สึกกลัวหรือโลภอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเทรด

เลเวอเรจสูงดีหรือไม่?

คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับ” ประสบการณ์ ทักษะ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคน การใช้เลเวอเรจสูงเปรียบเสมือนดาบสองคม ที่ให้ทั้งโอกาสและความเสี่ยง ซึ่งต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ผลกระทบของเลเวอเรจสูงต่อความเสี่ยง

การใช้เลเวอเรจสูง เช่น 1:400 หรือ 1:500 จะเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างมาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลให้เกิดการขาดทุนเกินเงินทุนได้ Forex Trader มือใหม่ที่ใช้เลเวอเรจสูงมักจะประสบปัญหาการขาดทุนจนหมดบัญชีได้อย่างรวดเร็วหากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี

สถานการณ์การใช้เลเวอเรจในระดับต่างๆ

เลเวอเรจคือเครื่องมือที่ควรปรับใช้ตามสถานการณ์ เช่น เทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะสั้นหรือ Scalping อาจต้องการใช้เลเวอเรจสูงเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย ในขณะที่เทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดระยะยาวอาจเลือกใช้เลเวอเรจในระดับต่ำกว่า เช่น 1:10 หรือ 1:20 เพื่อลดความเสี่ยงและรับมือกับความผันผวนของตลาด

วิธีการเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสม

การเลือกระดับเลเวอเรจที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex โดยต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสไตล์การเทรดและความสามารถในการรับความเสี่ยง

ปัจจัยที่ต้องพิจารณา

• ประสบการณ์การเทรด เทรดเดอร์มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:20 เพื่อเรียนรู้และปรับตัวกับความผันผวนของตลาด ก่อนที่จะพิจารณาเพิ่มระดับเลเวอเรจเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น การใช้แอปเทรด Forex ทดลองเทรดก่อนลงทุนจริงก็เป็นอีกวิธีที่ดี
• สไตล์การเทรด เทรดเดอร์แต่ละคนมีสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน เช่น Scalping, Day Trading, Swing Trading หรือ Position Trading ซึ่งแต่ละสไตล์เหมาะกับระดับเลเวอเรจที่แตกต่างกัน เช่น Scalper อาจใช้เลเวอเรจสูงแต่ Position Trader ควรใช้เลเวอเรจต่ำ
• ความสามารถในการรับความเสี่ยง ก่อนเปิดบัญชี Forex คุณควรประเมินว่าตัวเองสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด ทั้งในแง่ของเงินทุนและจิตใจ หากคุณไม่สามารถทนต่อความผันผวนของตลาดได้ การใช้เลเวอเรจต่ำจะช่วยลดความเครียดและแรงกดดันในการเทรด
• สภาวะตลาด ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงประกาศข่าว Forex สำคัญ การใช้เลเวอเรจต่ำจะช่วยป้องกันการขาดทุนจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง และเมื่อตลาดมีความผันผวนต่ำ คุณอาจพิจารณาใช้เลเวอเรจที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อย

คำแนะนำในการจัดการความเสี่ยง

• กำหนด Stop Loss ทุกครั้ง การกำหนดจุด Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อใช้เลเวอเรจ โดยควรกำหนดระดับการขาดทุนที่ยอมรับได้และไม่ควรเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง การใช้ แอปเทรด Forex ที่มีฟีเจอร์ Stop Loss อัตโนมัติจะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้กฎ 1% Risk Rule ไม่ควรเสี่ยงมากกว่า 1% ของเงินทุนทั้งหมดในการเทรดแต่ละครั้ง แม้ว่าคุณจะใช้ เลเวอเรจสูง ก็ตาม กฎนี้จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับการขาดทุนติดต่อกันหลายครั้งโดยไม่สูญเสียเงินทุนทั้งหมด และยังคงมีโอกาสกลับมาทำกำไรได้ในอนาคต
• ศึกษาและติดตาม ข่าว Forex อย่างสม่ำเสมอ ข่าวและปัจจัยพื้นฐานมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด Forex โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้ เลเวอเรจสูง การติดตาม ข่าว Forex จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนของตลาดและปรับกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับสถานการณ์
• ทดสอบกลยุทธ์ด้วยบัญชีเดโม ก่อน เปิดบัญชี Forex จริง ควรทดสอบกลยุทธ์และระดับเลเวอเรจต่างๆ ในบัญชีเดโมก่อน เพื่อให้เข้าใจผลกระทบของเลเวอเรจต่อการเทรดและหาระดับที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง

สรุปบทความ

เลเวอเรจ คือ เครื่องมือทางการเงินที่สำคัญสำหรับ Forex Trader ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน การเลือกระดับเลเวอเรจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประสบการณ์ สไตล์การเทรด และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคน Ultima Markets เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ มีให้บริการเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 พร้อมระบบป้องกันความเสี่ยงที่ปลอดภัย การันตีด้วยบัญชีผู้ใช้งานทั่วโลกที่ไว้วางใจเรา คุณสามารถเปิดบัญชี Forex กับเราได้เลยวันนี้เพื่อเริ่มต้นการเทรดอย่างมืออาชีพ