Important Information

This website is managed by Ultima Markets’ international entities, and it’s important to emphasise that they are not subject to regulation by the FCA in the UK. Therefore, you must understand that you will not have the FCA’s protection when investing through this website – for example:

  • You will not be guaranteed Negative Balance Protection
  • You will not be protected by FCA’s leverage restrictions
  • You will not have the right to settle disputes via the Financial Ombudsman Service (FOS)
  • You will not be protected by Financial Services Compensation Scheme (FSCS)
  • Any monies deposited will not be afforded the protection required under the FCA Client Assets Sourcebook. The level of protection for your funds will be determined by the regulations of the relevant local regulator.

Note: Ultima Markets is currently developing a dedicated website for UK clients and expects to onboard UK clients under FCA regulations in 2026.

If you would like to proceed and visit this website, you acknowledge and confirm the following:

  • 1.The website is owned by Ultima Markets’ international entities and not by Ultima Markets UK Ltd, which is regulated by the FCA.
  • 2.Ultima Markets Limited, or any of the Ultima Markets international entities, are neither based in the UK nor licensed by the FCA.
  • 3.You are accessing the website at your own initiative and have not been solicited by Ultima Markets Limited in any way.
  • 4.Investing through this website does not grant you the protections provided by the FCA.
  • 5.Should you choose to invest through this website or with any of the international Ultima Markets entities, you will be subject to the rules and regulations of the relevant international regulatory authorities, not the FCA.

Ultima Markets wants to make it clear that we are duly licensed and authorised to offer the services and financial derivative products listed on our website. Individuals accessing this website and registering a trading account do so entirely of their own volition and without prior solicitation.

By confirming your decision to proceed with entering the website, you hereby affirm that this decision was solely initiated by you, and no solicitation has been made by any Ultima Markets entity.

I confirm my intention to proceed and enter this website

วิธีตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติใน MT4 และ MT5

วิธีตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติใน MT4 และ MT5

การเทรดอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Algorithmic Trading คือการใช้คำสั่งที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขของตลาดที่กำหนด แทนที่จะส่งคำสั่งซื้อหรือขายด้วยตนเอง เทรดเดอร์จะใช้อัลกอริธึมในการสแกนตลาด วิเคราะห์ข้อมูล และส่งคำสั่งซื้อขายภายในไม่กี่มิลลิวินาที
MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) เป็นสองแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งรองรับการเทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors (EAs) และสคริปต์ ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติ เทรดเดอร์สามารถลดอารมณ์จากการตัดสินใจ เพิ่มความสม่ำเสมอในการดำเนินกลยุทธ์ และใช้โอกาสจากตลาดได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

ข้อดีของการเทรดอัตโนมัติบน MT4 และ MT5

การเทรดอัตโนมัติมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับการเทรดแบบแมนนวล เช่น:

  • ความเร็วและประสิทธิภาพ:อัลกอริธึมสามารถดำเนินคำสั่งซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ ลดความล่าช้าและข้อผิดพลาด
  • ตัดอารมณ์ออกจากการเทรด:ความกลัวและความโลภมักส่งผลต่อการตัดสินใจในการเทรดแบบแมนนวล ระบบอัตโนมัติช่วยให้เทรดตามกลยุทธ์ได้อย่างมีวินัย
  • เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง:ด้วยระบบอัตโนมัติและการใช้ VPS (Virtual Private Server) ระบบสามารถเทรดต่อเนื่องแม้ในขณะที่เทรดเดอร์ออฟไลน์
  • การทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งกลยุทธ์:กลยุทธ์อัตโนมัติสามารถทดสอบกับข้อมูลในอดีตเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพก่อนนำไปใช้จริง
  • เทรดหลายสินทรัพย์พร้อมกัน:EA สามารถสแกนและเทรดหลายคู่เงินหรือหลายสินทรัพย์ได้พร้อมกัน ซึ่งยากสำหรับเทรดเดอร์ที่ทำด้วยตนเอง

ความแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5 ในการเทรดอัตโนมัติ

แม้ทั้งสองแพลตฟอร์มจะรองรับการเทรดอัตโนมัติ แต่ก็มีความแตกต่างสำคัญบางประการ:

ฟีเจอร์ MT4 MT5
ภาษาโปรแกรม MQL4 MQL5 (ขั้นสูงกว่า)
การเทรดหลายสินทรัพย์ เน้นเฉพาะฟอเร็กซ์ รองรับฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส
ประเภทคำสั่งซื้อขาย 3 ประเภท 4 ประเภท
การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ทำงานแบบ Single-threaded ทำงานแบบ Multi-threaded (เร็วและมีประสิทธิภาพกว่า)
ปฏิทินเศรษฐกิจ ไม่มีในระบบ มีปฏิทินในตัวแพลตฟอร์ม
Depth of Market (DOM) จำกัด DOM ขั้นสูง สำหรับบริหารจัดการคำสั่งได้ดีกว่า

MT4 ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์เนื่องจากความเรียบง่ายและการรองรับอย่างแพร่หลาย ขณะที่ MT5 เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการคำสั่งซื้อขั้นสูง การทดสอบกลยุทธ์ที่เร็วกว่า และการเทรดหลากหลายสินทรัพย์ในแพลตฟอร์มเดียว

ทำความเข้าใจกับ Expert Advisors (EAs) และ Scripts

MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) มีความสามารถด้านระบบอัตโนมัติที่ทรงพลังผ่านเครื่องมือ Expert Advisors (EAs) และ Scripts ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถดำเนินกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องทำเอง ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง EA และ Script ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวิธีการเทรดอัตโนมัติที่เหมาะสม

Expert Advisors (EAs) คืออะไร?

Expert Advisors (EAs) คือโปรแกรมเทรดอัตโนมัติที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม MetaTrader โดยเขียนด้วยภาษา MQL4 (สำหรับ MT4) หรือ MQL5 (สำหรับ MT5) และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลราคา ดำเนินการซื้อขาย และจัดการคำสั่งตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

คุณสมบัติของ EA:

  • การเทรดแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ:EA สามารถเปิด ปรับเปลี่ยน และปิดคำสั่งซื้อขายโดยไม่ต้องใช้มือ
  • ดำเนินกลยุทธ์ตามกฎ:ทำงานตามกฎการเทรดและอินดิเคเตอร์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
  • การจัดการความเสี่ยง:รองรับคำสั่ง stop-loss, take-profit และ trailing stop
  • ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง:EA สามารถเทรดต่อเนื่องโดยไม่ต้องให้เทรดเดอร์ออนไลน์

ประเภทของ Expert Advisors:

  • Trend-Following EA– ตรวจจับแนวโน้มและเทรดตามทิศทางของเทรนด์
  • Scalping EA– ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวเล็กน้อยของราคาโดยการเปิด-ปิดคำสั่งบ่อยครั้ง
  • Grid EA– ใช้กลยุทธ์วางคำสั่งซื้อ-ขายเป็นตารางตามระดับราคาที่กำหนดไว้
  • Hedging EA– เปิดหลายสถานะเพื่อกระจายความเสี่ยง
  • News Trading EA– ตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจโดยเทรดตามความผันผวนของตลาด

EA สามารถเฝ้าติดตามตลาด วิเคราะห์ราคา และดำเนินการคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ และยังสามารถใช้แบบกึ่งอัตโนมัติ โดยให้เทรดเดอร์กดยืนยันสัญญาณก่อนเทรดได้

ความแตกต่างระหว่าง Expert Advisors และ Scripts

แม้ EA และ Script จะเป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่ใช้ใน MetaTrader เหมือนกัน แต่มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน:

ฟีเจอร์ Expert Advisors (EAs) Scripts
วัตถุประสงค์ อัตโนมัติทั้งกระบวนการเทรด ทำคำสั่งเฉพาะครั้งเดียว
การทำงาน ทำงานต่อเนื่องและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด ทำงานครั้งเดียวแล้วหยุด
การใช้งาน กลยุทธ์การเทรด การจัดการความเสี่ยง การติดตามสถานะ เปิด/ปิดคำสั่ง เปลี่ยนการตั้งค่าเฉพาะจุด

อย่างเช่น เทรดเดอร์สามารถใช้ EA เพื่อเปิดคำสั่งเทรดเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ตัดกัน หรือใช้ Script เพื่อปิดคำสั่งซื้อขายทั้งหมดพร้อมกันทันทีในคลิกเดียว

การตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติบน MT4 และ MT5

การเทรดอัตโนมัติใน MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ เช่น การติดตั้งแพลตฟอร์ม การเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติ การเพิ่ม Expert Advisors (EAs) และการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง คู่มือนี้จะอธิบายวิธีการตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติทีละขั้นตอน

หากคุณเริ่มใช้งาน MT4 หรือ MT5 อยู่แล้ว คุณสามารถย้อนกลับไปดูคำแนะนำในบทนำสำหรับข้อมูลเบื้องต้นได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 1: เปิดใช้งานการเทรดอัตโนมัติ

1.เปิดใช้งานการเทรดอัตโนมัติใน MT4/MT5

  • คลิกเมนู Tools > Options(หรือกด Ctrl + O)
  • ไปที่แท็บ Expert Advisors
  • ทำเครื่องหมายที่ช่อง “Allow automated trading”
  • ยกเลิกเครื่องหมายในตัวเลือกเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดการทำงานของ EA:
  • Disable automated trading when the account is changed
  • Disable automated trading when the profile has been changed
  • Disable automated trading when the chart symbol or period is changed

2.เปิดใช้งานปุ่ม AutoTrading บน Toolbar

  • ค้นหาปุ่ม AutoTradingที่แถบด้านบนของแพลตฟอร์ม
  • คลิกให้ปุ่มเป็น “สีเขียว”แสดงว่าเปิดการเทรดอัตโนมัติเรียบร้อยแล้ว

ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (EN)

ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (SC)

ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (TC)

ขั้นตอนที่ 2: การเพิ่ม EA ลงใน MT4/MT5

1.ดาวน์โหลดหรือสร้าง EA

  • ดาวน์โหลด EA จาก MetaTrader Market, ผู้ให้บริการภายนอกหรือโบรกเกอร์ของคุณ
  • หากคุณเขียน EA เอง ให้แน่ใจว่าเขียนด้วย MQL4(สำหรับ MT4) หรือ MQL5 (สำหรับ MT5)

2.ติดตั้งไฟล์ EA ลงในโฟลเดอร์ที่ถูกต้อง

  • เปิด MetaTrader และไปที่ File > Open Data Folder
  • ไปที่โฟลเดอร์ MQL4/Experts(สำหรับ MT4) หรือ MQL5/Experts (สำหรับ MT5)
  • วางไฟล์ EA (.ex4 สำหรับ MT4 หรือ .ex5 สำหรับ MT5) ลงในโฟลเดอร์ Experts

3.รีเฟรชหรือรีสตาร์ท MetaTrader

  • ที่หน้าต่าง Navigatorคลิกขวาที่ Expert Advisors แล้วเลือก Refresh
  • หรือจะปิดแล้วเปิด MetaTrader ใหม่เพื่อโหลด EA

4.แนบ EA กับกราฟ

  • เปิดกราฟของสินทรัพย์ที่คุณต้องการให้ EA เทรด
  • ลาก EA จากหน้าต่าง Navigatorแล้วปล่อยลงบนกราฟ
  • จะมีหน้าต่างการตั้งค่า EA ปรากฏขึ้น

5.ตั้งค่า EA

  • ในหน้าต่างตั้งค่า ไปที่แท็บ Common
  • ติ๊กถูกที่ “Allow live trading”
  • ไปที่แท็บ Inputsเพื่อปรับค่าพารามิเตอร์ เช่น ขนาด lot, stop-loss, take-profit

6.ตรวจสอบว่า EA ทำงานอยู่หรือไม่

  • มุมขวาบนของกราฟจะแสดง “หน้ายิ้ม”(MT4) หรือไอคอนสีเขียว (MT5) หากทำงานแล้ว
  • หากแสดงเป็น “หน้าเศร้า”(MT4) หรือไอคอนสีแดง (MT5) แสดงว่ายังไม่ได้เปิดใช้งาน

ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (EN)

ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (SC)

ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (TC)

หลังจากติดตั้ง EA แล้ว ควรทำการ Backtest และทดลองรันใน บัญชี Demo อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบความเสถียร ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลยุทธ์เทรดของคุณสอดคล้องกับสภาพตลาด เช่น เทรนด์หรือความผันผวน และอย่าลืมตั้งค่าการจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการขาดทุนที่รุนแรงเกินไป

การทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งกลยุทธ์

การทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งพารามิเตอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในระบบการเทรดอัตโนมัติ ช่วยให้นักเทรดสามารถประเมินประสิทธิภาพของ Expert Advisor (EA) ก่อนนำไปใช้งานจริงในตลาด โดยการทดสอบกับข้อมูลย้อนหลังและปรับกลยุทธ์ นักเทรดจะสามารถค้นหาจุดอ่อนและปรับค่าพารามิเตอร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรได้สูงสุด

การทดสอบย้อนหลังคืออะไร?

การทดสอบย้อนหลังคือกระบวนการรัน EA กับข้อมูลราคาย้อนหลัง เพื่อดูว่ากลยุทธ์จะมีประสิทธิภาพอย่างไรหากใช้งานในอดีต จุดประสงค์หลักของการทดสอบย้อนหลังคือเพื่อ ตรวจสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในการทำกำไร วัดอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน ค้นหาจุดอ่อนหรือจุดที่ควรปรับปรุงของกลยุทธ์ และ เพิ่มความมั่นใจก่อนนำ EA ไปใช้ในการเทรดจริง

การทดสอบย้อนหลังเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดจริง

การทดสอบย้อนหลังใน MT4/MT5 ทำงานอย่างไร

1.เปิด Strategy Tester

  • ใน MetaTrader ไปที่เมนู View > Strategy Testerหรือกด Ctrl+R

2.เลือก EA ที่ต้องการทดสอบ

  • ในหน้าต่าง Strategy Tester ให้เลือก EA ที่ต้องการจากเมนู Expert Advisor

3.เลือกสัญลักษณ์และกรอบเวลา (Timeframe)

  • เลือกคู่เงินหรือสินทรัพย์ (เช่น EUR/USD)
  • เลือกช่วงเวลา เช่น M1, H1, หรือ D1ตามกลยุทธ์ที่ใช้

4.เลือกรูปแบบการทดสอบ (Model)

  • Every tick– แม่นยำที่สุดแต่ใช้เวลานาน
  • 1-minute OHLC– เร็วกว่ารูปแบบแรกแต่แม่นยำน้อยกว่า (เหมาะกับกลยุทธ์ทั่วไป)
  • Open prices only– เร็วที่สุดแต่แม่นยำน้อยที่สุด (เหมาะสำหรับการทดสอบเบื้องต้น)

5.ตั้งค่าช่วงเวลาและดีเลย์ในการดำเนินคำสั่ง

  • กำหนดช่วงเวลาข้อมูลย้อนหลัง
  • ปรับค่าดีเลย์เพื่อจำลองสภาวะตลาดจริง

6.เปิดใช้งาน “Visual Mode” (ไม่บังคับ)

  • หากต้องการดูการเปิด/ปิดออร์เดอร์แบบเรียลไทม์บนกราฟ ให้เปิดโหมดนี้ และสามารถปรับความเร็วได้

7.เริ่มการทดสอบและวิเคราะห์ผลลัพธ์

  • คลิก Startเพื่อเริ่มทดสอบ
  • ตรวจสอบผลลัพธ์ในแท็บ Results, Graph, และ Reportเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกลยุทธ์

ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (EN)

ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5  MT5 (SC)

ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5  MT5 (TC)

การวิเคราะห์ผลการทดสอบย้อนหลัง

การวิเคราะห์ผลการทดสอบย้อนหลังเป็นขั้นตอนสำคัญ หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว เทรดเดอร์ควรประเมินตัวชี้วัดหลักต่อไปนี้:

ตัวชี้วัด คำอธิบาย
Net Profit กำไร/ขาดทุนสุทธิทั้งหมดในช่วงระยะเวลาทดสอบ
Win Rate (%) เปอร์เซ็นต์ของออร์เดอร์ที่ทำกำไรเมื่อเทียบกับจำนวนออร์เดอร์ทั้งหมด
Drawdown (%) การลดลงของยอดคงเหลือสูงสุดถึงต่ำสุดในพอร์ต
Profit Factor ผลรวมของกำไรทั้งหมดหารด้วยผลรวมของขาดทุน (ค่ายิ่งสูงยิ่งดี)
Sharpe Ratio ตัววัดผลตอบแทนเมื่อปรับความเสี่ยงแล้ว (ค่ายิ่งสูงยิ่งดี)
Maximum Consecutive Losses จำนวนครั้งที่ขาดทุนต่อเนื่องมากที่สุด ช่วยประเมินความทนทานของกลยุทธ์ต่อความเสี่ยง

การปรับแต่ง (Optimisation): เพิ่มประสิทธิภาพของ EA

การปรับแต่งคือกระบวนการปรับค่าพารามิเตอร์อินพุต (เช่น ระดับ Stop-loss, Take-profit, การตั้งค่าตัวชี้วัด) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ EA โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน.

วิธีการปรับแต่ง EA ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดใน MetaTrader:

1.เปิด Strategy Tester และเปิดโหมด Optimization:

  • เลือก EA และสินทรัพย์ที่ต้องการเหมือนขั้นตอนทดสอบย้อนหลัง
  • ติ๊กที่ช่อง Optimization Mode

2.ตั้งค่า Input Parameters สำหรับการ Optimization:

  • กำหนดช่วงค่า (Range) และค่าก้าว (Step) สำหรับแต่ละพารามิเตอร์ (เช่น ทดสอบค่า SMA จาก 10–50 โดยเพิ่มทีละ 5)
  • พารามิเตอร์ที่นิยมปรับแต่ง ได้แก่:
  • ค่าช่วงของ Moving Average
  • ระดับ RSI (เช่น Overbought ที่ 70 และ Oversold ที่ 30)
  • ระดับ Stop-loss และ Take-profit
  • ขนาด Lot และการตั้งค่าการบริหารความเสี่ยง

3.เลือกวิธีการ Optimization:

  • Slow Optimization:ทดสอบทุกชุดค่าที่เป็นไปได้ (แม่นยำแต่ใช้เวลานาน)
  • Genetic Algorithm (Fast Optimization):ใช้ AI เพื่อค้นหาค่าที่ดีที่สุดอย่างมีประสิทธิภาพ

4.เริ่มต้นกระบวนการ Optimization และตรวจสอบผลลัพธ์:

  • คลิก Startเพื่อเริ่มต้น
  • หลังจากเสร็จสิ้น ตรวจสอบผลในแท็บ Optimization Resultsเพื่อดูค่าที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

5.เลือกค่าที่ดีที่สุดและทำการทดสอบใหม่:

  • เลือกค่าพารามิเตอร์ที่ให้สัดส่วนกำไรต่อความเสี่ยงดีที่สุด
  • ทำการ backtest อีกครั้งโดยใช้ค่าที่ได้จากการปรับแต่งนี้

ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (EN)

ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (SC)

ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (TC)

การทดสอบแบบ Walk-Forward (การทดสอบนอกชุดข้อมูล)

การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) อาจมีการปรับค่าพารามิเตอร์ให้พอดีกับข้อมูลในอดีตมากเกินไป (Overfitting) ซึ่งทำให้ EA อาจไม่สามารถทำกำไรได้จริงเมื่อนำไปใช้ในตลาดจริง การทดสอบแบบ Walk-Forward จึงเป็นการตรวจสอบความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ โดยใช้ข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยผ่านการปรับแต่งมาก่อน

ขั้นตอนการทำ Walk-Forward Testing:

1.แบ่งข้อมูลย้อนหลังออกเป็น 2 ส่วน:ใช้ 70% สำหรับการทดสอบย้อนหลังและปรับแต่งพารามิเตอร์ (In-Sample Data) และอีก 30% สำหรับทดสอบล่วงหน้า (Out-of-Sample Data)
2.นำค่าพารามิเตอร์ที่ได้จากการปรับแต่งไปทดสอบกับชุดข้อมูลใหม่:รัน EA กับข้อมูลย้อนหลังอีกชุดที่ไม่เคยใช้ในการปรับแต่ง แล้วสังเกตผลลัพธ์
3.เปรียบเทียบผลลัพธ์:หาก EA ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีใน Walk-Forward Testing แสดงว่ากลยุทธ์มีความแข็งแกร่ง แต่หากผลลัพธ์แย่ลง แสดงว่ากลยุทธ์อาจถูกปรับให้เข้ากับข้อมูลในอดีตมากเกินไปและต้องมีการปรับปรุงใหม่

การทดสอบนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการใช้กลยุทธ์ที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในสภาวะตลาดปัจจุบัน.

การทดสอบสดในบัญชีเดโม

ก่อนที่จะนำ EA ไปใช้งานจริงบนบัญชีเทรด ควรทำการรันในโหมดเดโมเพื่อดูว่า EA มีพฤติกรรมอย่างไรภายใต้สภาวะตลาดจริง

สิ่งที่ควรติดตามในการทดสอบสด:

  • ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง:มีความล่าช้าในการเปิดหรือปิดออร์เดอร์หรือไม่?
  • Slippage:ราคาขยับไปมากแค่ไหนก่อนที่คำสั่งจะถูกดำเนินการ?
  • ความไวต่อสเปรด:EA มีประสิทธิภาพแย่ลงหรือไม่เมื่อตลาดมีสเปรดกว้าง?
  • ความเสถียรของผลการเทรด:ผลการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) กับผลจริงมีความสอดคล้องกันหรือไม่?

การสังเกตข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจว่า EA มีประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริง และช่วยลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น.

การรันและติดตามการทำงานของ EA

เมื่อคุณพัฒนา ทดสอบย้อนหลัง (Backtest) และปรับแต่ง (Optimize) Expert Advisor (EA) เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการนำไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมการเทรดแบบ Live อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้งาน EA เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น — การติดตามและบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ EA ทำงานได้อย่างราบรื่นและทำกำไรได้ในระยะยาว

ส่วนนี้จะแนะนำขั้นตอนในการเปิดใช้งาน EA แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการติดตาม และวิธีแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อติดตามผลการทำงานของ EA:

  • ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง:ตรวจสอบว่าการเปิด/ปิดออร์เดอร์ทำได้โดยมีความล่าช้าน้อยที่สุด
  • ความถี่ในการเทรด:ตรวจสอบว่า EA ดำเนินการเทรดตามรูปแบบที่คาดไว้หรือไม่
  • อัตราการชนะ/แพ้ (Win/Loss):ติดตามความสม่ำเสมอของประสิทธิภาพในระยะยาว
  • Drawdown:ตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การลดลงของยอดเงินในบัญชีจากจุดสูงสุด
  • Slippage:เปรียบเทียบราคาที่คาดว่าจะได้กับราคาจริงที่ได้รับเมื่อดำเนินคำสั่ง
  • กำไร/ขาดทุน (Profit/Loss):ประเมินภาพรวมของความสามารถในการทำกำไรและผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงแล้ว

VPS สำหรับการเทรดตลอด 24/7

VPS (Virtual Private Server) คือเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่ทำงานตลอดเวลา ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้งาน Expert Advisor (EA) ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด เนื่องจากการเทรดอัตโนมัติต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตที่เสถียร ความหน่วงต่ำ และการจ่ายไฟฟ้าที่ไม่ขาดช่วง การใช้ VPS จึงเป็นวิธีที่มั่นใจได้ว่า EA ของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของคุณปิดอยู่

ประโยชน์หลักของการใช้ VPS:

  • การเทรดได้ตลอด 24/7:ช่วยให้ EA ทำงานต่อเนื่องแม้อุปกรณ์ของคุณจะปิด
  • การดำเนินคำสั่งที่เร็วขึ้น:ลดความหน่วง (Latency) โดยติดตั้งแพลตฟอร์มใกล้กับเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์
  • ลดความเสี่ยงจากระบบล่ม:ป้องกันผลกระทบจากอินเทอร์เน็ตหลุด ไฟฟ้าดับ หรือระบบค้าง
  • ความปลอดภัยที่ดีกว่า:ผู้ให้บริการ VPS มักมีระบบ Firewall และมาตรการป้องกันความปลอดภัยระดับสูง
  • เข้าถึงได้จากหลายอุปกรณ์:ผู้ใช้งานสามารถเข้าดูหรือควบคุม VPS ได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ทุกที่ทั่วโลก

VPS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Scalping, High-Frequency หรือเทรดตามข่าว ที่ต้องการความเร็วในการดำเนินคำสั่งในระดับมิลลิวินาที.

เทรดกับ Ultima Markets

Ultima Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยให้บริการเข้าถึงเครื่องมือการซื้อขาย CFD มากกว่า 250 รายการ ครอบคลุมทั้งฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้น เรารับประกันสเปรดที่แคบและการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว ปัจจุบันเราให้บริการนักลงทุนจาก 172 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยระบบการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพและบริการที่น่าเชื่อถือ

Ultima Markets ได้รับการยอมรับอย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ เช่น

  • โบรกเกอร์พันธมิตรยอดเยี่ยม (Best Affiliates Brokerage)
  • ความปลอดภัยของเงินทุนยอดเยี่ยมใน Global Forex Awards (Best Fund Safety)
  • โบรกเกอร์ CFD ยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากงาน Traders Fair 2024 ที่ฮ่องกง (Best APAC CFD Broker)

Ultima Markets ยังเป็นโบรกเกอร์ CFD รายแรกที่เข้าร่วมโครงการ Global Compact ขององค์การสหประชาชาติ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม

Ultima Markets เป็นสมาชิกของ The Financial Commission ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติที่ทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในตลาด Forex และ CFD

ลูกค้าทุกคนของ Ultima Markets ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยของ Willis Towers Watson (WTW) บริษัทประกันระดับโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1828 โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบัญชี

เปิดบัญชี กับ Ultima Markets วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเทรดดัชนี CFD ของคุณ!

ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และมิได้ถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำทางวิชาชีพอื่นใด อีกทั้งไม่ควรถือว่าข้อความหรือความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้เป็นการแนะนำจาก Ultima Markets หรือผู้เขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุน กลยุทธ์ หรือธุรกรรมเฉพาะใดๆ ผู้อ่านไม่ควรพึ่งพาเนื้อหานี้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน และควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระหากเห็นสมควร

1. วิธีตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติใน MT4 และ MT5
2. ทำความเข้าใจกับ Expert Advisors (EAs) และ Scripts
3. การตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติบน MT4 และ MT5
4.การทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งกลยุทธ์
5.การปรับแต่ง (Optimisation): เพิ่มประสิทธิภาพของ EA
6. การทดสอบสดในบัญชีเดโม
7.เทรดกับ Ultima Markets

บทความล่าสุด