Important Information
This website is managed by Ultima Markets’ international entities, and it’s important to emphasise that they are not subject to regulation by the FCA in the UK. Therefore, you must understand that you will not have the FCA’s protection when investing through this website – for example:
Note: Ultima Markets is currently developing a dedicated website for UK clients and expects to onboard UK clients under FCA regulations in 2026.
If you would like to proceed and visit this website, you acknowledge and confirm the following:
Ultima Markets wants to make it clear that we are duly licensed and authorised to offer the services and financial derivative products listed on our website. Individuals accessing this website and registering a trading account do so entirely of their own volition and without prior solicitation.
By confirming your decision to proceed with entering the website, you hereby affirm that this decision was solely initiated by you, and no solicitation has been made by any Ultima Markets entity.
I confirm my intention to proceed and enter this websiteการเทรดอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Algorithmic Trading คือการใช้คำสั่งที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขของตลาดที่กำหนด แทนที่จะส่งคำสั่งซื้อหรือขายด้วยตนเอง เทรดเดอร์จะใช้อัลกอริธึมในการสแกนตลาด วิเคราะห์ข้อมูล และส่งคำสั่งซื้อขายภายในไม่กี่มิลลิวินาที
MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) เป็นสองแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งรองรับการเทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors (EAs) และสคริปต์ ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติ เทรดเดอร์สามารถลดอารมณ์จากการตัดสินใจ เพิ่มความสม่ำเสมอในการดำเนินกลยุทธ์ และใช้โอกาสจากตลาดได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
การเทรดอัตโนมัติมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับการเทรดแบบแมนนวล เช่น:
แม้ทั้งสองแพลตฟอร์มจะรองรับการเทรดอัตโนมัติ แต่ก็มีความแตกต่างสำคัญบางประการ:
ฟีเจอร์ | MT4 | MT5 |
ภาษาโปรแกรม | MQL4 | MQL5 (ขั้นสูงกว่า) |
การเทรดหลายสินทรัพย์ | เน้นเฉพาะฟอเร็กซ์ | รองรับฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส |
ประเภทคำสั่งซื้อขาย | 3 ประเภท | 4 ประเภท |
การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) | ทำงานแบบ Single-threaded | ทำงานแบบ Multi-threaded (เร็วและมีประสิทธิภาพกว่า) |
ปฏิทินเศรษฐกิจ | ไม่มีในระบบ | มีปฏิทินในตัวแพลตฟอร์ม |
Depth of Market (DOM) | จำกัด | DOM ขั้นสูง สำหรับบริหารจัดการคำสั่งได้ดีกว่า |
MT4 ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์เนื่องจากความเรียบง่ายและการรองรับอย่างแพร่หลาย ขณะที่ MT5 เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการคำสั่งซื้อขั้นสูง การทดสอบกลยุทธ์ที่เร็วกว่า และการเทรดหลากหลายสินทรัพย์ในแพลตฟอร์มเดียว
MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) มีความสามารถด้านระบบอัตโนมัติที่ทรงพลังผ่านเครื่องมือ Expert Advisors (EAs) และ Scripts ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถดำเนินกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องทำเอง ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง EA และ Script ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวิธีการเทรดอัตโนมัติที่เหมาะสม
Expert Advisors (EAs) คือโปรแกรมเทรดอัตโนมัติที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม MetaTrader โดยเขียนด้วยภาษา MQL4 (สำหรับ MT4) หรือ MQL5 (สำหรับ MT5) และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลราคา ดำเนินการซื้อขาย และจัดการคำสั่งตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
คุณสมบัติของ EA:
ประเภทของ Expert Advisors:
EA สามารถเฝ้าติดตามตลาด วิเคราะห์ราคา และดำเนินการคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ และยังสามารถใช้แบบกึ่งอัตโนมัติ โดยให้เทรดเดอร์กดยืนยันสัญญาณก่อนเทรดได้
แม้ EA และ Script จะเป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่ใช้ใน MetaTrader เหมือนกัน แต่มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน:
ฟีเจอร์ | Expert Advisors (EAs) | Scripts |
วัตถุประสงค์ | อัตโนมัติทั้งกระบวนการเทรด | ทำคำสั่งเฉพาะครั้งเดียว |
การทำงาน | ทำงานต่อเนื่องและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด | ทำงานครั้งเดียวแล้วหยุด |
การใช้งาน | กลยุทธ์การเทรด การจัดการความเสี่ยง การติดตามสถานะ | เปิด/ปิดคำสั่ง เปลี่ยนการตั้งค่าเฉพาะจุด |
อย่างเช่น เทรดเดอร์สามารถใช้ EA เพื่อเปิดคำสั่งเทรดเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ตัดกัน หรือใช้ Script เพื่อปิดคำสั่งซื้อขายทั้งหมดพร้อมกันทันทีในคลิกเดียว
การเทรดอัตโนมัติใน MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ เช่น การติดตั้งแพลตฟอร์ม การเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติ การเพิ่ม Expert Advisors (EAs) และการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง คู่มือนี้จะอธิบายวิธีการตั้งค่าการเทรดอัตโนมัติทีละขั้นตอน
หากคุณเริ่มใช้งาน MT4 หรือ MT5 อยู่แล้ว คุณสามารถย้อนกลับไปดูคำแนะนำในบทนำสำหรับข้อมูลเบื้องต้นได้เช่นกัน
1.เปิดใช้งานการเทรดอัตโนมัติใน MT4/MT5
2.เปิดใช้งานปุ่ม AutoTrading บน Toolbar
ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (EN)
ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (SC)
ภาพประกอบ: การตั้งค่าการเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติใน MT5 (TC)
1.ดาวน์โหลดหรือสร้าง EA
2.ติดตั้งไฟล์ EA ลงในโฟลเดอร์ที่ถูกต้อง
3.รีเฟรชหรือรีสตาร์ท MetaTrader
4.แนบ EA กับกราฟ
5.ตั้งค่า EA
6.ตรวจสอบว่า EA ทำงานอยู่หรือไม่
ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (EN)
ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (SC)
ภาพประกอบ: การเพิ่ม EA จากหน้าต่าง Navigator – MT5 (TC)
หลังจากติดตั้ง EA แล้ว ควรทำการ Backtest และทดลองรันใน บัญชี Demo อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบความเสถียร ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลยุทธ์เทรดของคุณสอดคล้องกับสภาพตลาด เช่น เทรนด์หรือความผันผวน และอย่าลืมตั้งค่าการจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการขาดทุนที่รุนแรงเกินไป
การทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งพารามิเตอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในระบบการเทรดอัตโนมัติ ช่วยให้นักเทรดสามารถประเมินประสิทธิภาพของ Expert Advisor (EA) ก่อนนำไปใช้งานจริงในตลาด โดยการทดสอบกับข้อมูลย้อนหลังและปรับกลยุทธ์ นักเทรดจะสามารถค้นหาจุดอ่อนและปรับค่าพารามิเตอร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรได้สูงสุด
การทดสอบย้อนหลังคือกระบวนการรัน EA กับข้อมูลราคาย้อนหลัง เพื่อดูว่ากลยุทธ์จะมีประสิทธิภาพอย่างไรหากใช้งานในอดีต จุดประสงค์หลักของการทดสอบย้อนหลังคือเพื่อ ตรวจสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในการทำกำไร วัดอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน ค้นหาจุดอ่อนหรือจุดที่ควรปรับปรุงของกลยุทธ์ และ เพิ่มความมั่นใจก่อนนำ EA ไปใช้ในการเทรดจริง
การทดสอบย้อนหลังเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดจริง
1.เปิด Strategy Tester
2.เลือก EA ที่ต้องการทดสอบ
3.เลือกสัญลักษณ์และกรอบเวลา (Timeframe)
4.เลือกรูปแบบการทดสอบ (Model)
5.ตั้งค่าช่วงเวลาและดีเลย์ในการดำเนินคำสั่ง
6.เปิดใช้งาน “Visual Mode” (ไม่บังคับ)
7.เริ่มการทดสอบและวิเคราะห์ผลลัพธ์
ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (EN)
ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5 MT5 (SC)
ตัวเลือกการทดสอบย้อนหลังใน MT5 MT5 (TC)
การวิเคราะห์ผลการทดสอบย้อนหลังเป็นขั้นตอนสำคัญ หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว เทรดเดอร์ควรประเมินตัวชี้วัดหลักต่อไปนี้:
ตัวชี้วัด | คำอธิบาย |
Net Profit | กำไร/ขาดทุนสุทธิทั้งหมดในช่วงระยะเวลาทดสอบ |
Win Rate (%) | เปอร์เซ็นต์ของออร์เดอร์ที่ทำกำไรเมื่อเทียบกับจำนวนออร์เดอร์ทั้งหมด |
Drawdown (%) | การลดลงของยอดคงเหลือสูงสุดถึงต่ำสุดในพอร์ต |
Profit Factor | ผลรวมของกำไรทั้งหมดหารด้วยผลรวมของขาดทุน (ค่ายิ่งสูงยิ่งดี) |
Sharpe Ratio | ตัววัดผลตอบแทนเมื่อปรับความเสี่ยงแล้ว (ค่ายิ่งสูงยิ่งดี) |
Maximum Consecutive Losses | จำนวนครั้งที่ขาดทุนต่อเนื่องมากที่สุด ช่วยประเมินความทนทานของกลยุทธ์ต่อความเสี่ยง |
การปรับแต่งคือกระบวนการปรับค่าพารามิเตอร์อินพุต (เช่น ระดับ Stop-loss, Take-profit, การตั้งค่าตัวชี้วัด) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ EA โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน.
1.เปิด Strategy Tester และเปิดโหมด Optimization:
2.ตั้งค่า Input Parameters สำหรับการ Optimization:
3.เลือกวิธีการ Optimization:
4.เริ่มต้นกระบวนการ Optimization และตรวจสอบผลลัพธ์:
5.เลือกค่าที่ดีที่สุดและทำการทดสอบใหม่:
ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (EN)
ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (SC)
ตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบย้อนหลังใน MT5 (TC)
การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) อาจมีการปรับค่าพารามิเตอร์ให้พอดีกับข้อมูลในอดีตมากเกินไป (Overfitting) ซึ่งทำให้ EA อาจไม่สามารถทำกำไรได้จริงเมื่อนำไปใช้ในตลาดจริง การทดสอบแบบ Walk-Forward จึงเป็นการตรวจสอบความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ โดยใช้ข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยผ่านการปรับแต่งมาก่อน
1.แบ่งข้อมูลย้อนหลังออกเป็น 2 ส่วน:ใช้ 70% สำหรับการทดสอบย้อนหลังและปรับแต่งพารามิเตอร์ (In-Sample Data) และอีก 30% สำหรับทดสอบล่วงหน้า (Out-of-Sample Data)
2.นำค่าพารามิเตอร์ที่ได้จากการปรับแต่งไปทดสอบกับชุดข้อมูลใหม่:รัน EA กับข้อมูลย้อนหลังอีกชุดที่ไม่เคยใช้ในการปรับแต่ง แล้วสังเกตผลลัพธ์
3.เปรียบเทียบผลลัพธ์:หาก EA ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีใน Walk-Forward Testing แสดงว่ากลยุทธ์มีความแข็งแกร่ง แต่หากผลลัพธ์แย่ลง แสดงว่ากลยุทธ์อาจถูกปรับให้เข้ากับข้อมูลในอดีตมากเกินไปและต้องมีการปรับปรุงใหม่
การทดสอบนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการใช้กลยุทธ์ที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในสภาวะตลาดปัจจุบัน.
ก่อนที่จะนำ EA ไปใช้งานจริงบนบัญชีเทรด ควรทำการรันในโหมดเดโมเพื่อดูว่า EA มีพฤติกรรมอย่างไรภายใต้สภาวะตลาดจริง
การสังเกตข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจว่า EA มีประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริง และช่วยลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น.
เมื่อคุณพัฒนา ทดสอบย้อนหลัง (Backtest) และปรับแต่ง (Optimize) Expert Advisor (EA) เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการนำไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมการเทรดแบบ Live อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้งาน EA เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น — การติดตามและบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ EA ทำงานได้อย่างราบรื่นและทำกำไรได้ในระยะยาว
ส่วนนี้จะแนะนำขั้นตอนในการเปิดใช้งาน EA แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการติดตาม และวิธีแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อติดตามผลการทำงานของ EA:
VPS (Virtual Private Server) คือเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่ทำงานตลอดเวลา ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้งาน Expert Advisor (EA) ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด เนื่องจากการเทรดอัตโนมัติต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตที่เสถียร ความหน่วงต่ำ และการจ่ายไฟฟ้าที่ไม่ขาดช่วง การใช้ VPS จึงเป็นวิธีที่มั่นใจได้ว่า EA ของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของคุณปิดอยู่
ประโยชน์หลักของการใช้ VPS:
VPS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Scalping, High-Frequency หรือเทรดตามข่าว ที่ต้องการความเร็วในการดำเนินคำสั่งในระดับมิลลิวินาที.
Ultima Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยให้บริการเข้าถึงเครื่องมือการซื้อขาย CFD มากกว่า 250 รายการ ครอบคลุมทั้งฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้น เรารับประกันสเปรดที่แคบและการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว ปัจจุบันเราให้บริการนักลงทุนจาก 172 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยระบบการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพและบริการที่น่าเชื่อถือ
Ultima Markets ได้รับการยอมรับอย่างโดดเด่นในปี 2024 โดยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ เช่น
Ultima Markets ยังเป็นโบรกเกอร์ CFD รายแรกที่เข้าร่วมโครงการ Global Compact ขององค์การสหประชาชาติ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม
Ultima Markets เป็นสมาชิกของ The Financial Commission ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติที่ทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในตลาด Forex และ CFD
ลูกค้าทุกคนของ Ultima Markets ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยของ Willis Towers Watson (WTW) บริษัทประกันระดับโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1828 โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบัญชี
เปิดบัญชี กับ Ultima Markets วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเทรดดัชนี CFD ของคุณ!
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และมิได้ถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำทางวิชาชีพอื่นใด อีกทั้งไม่ควรถือว่าข้อความหรือความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้เป็นการแนะนำจาก Ultima Markets หรือผู้เขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุน กลยุทธ์ หรือธุรกรรมเฉพาะใดๆ ผู้อ่านไม่ควรพึ่งพาเนื้อหานี้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน และควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระหากเห็นสมควร