Important Information
This website is managed by Ultima Markets’ international entities, and it’s important to emphasise that they are not subject to regulation by the FCA in the UK. Therefore, you must understand that you will not have the FCA’s protection when investing through this website – for example:
Note: Ultima Markets is currently developing a dedicated website for UK clients and expects to onboard UK clients under FCA regulations in 2026.
If you would like to proceed and visit this website, you acknowledge and confirm the following:
Ultima Markets wants to make it clear that we are duly licensed and authorised to offer the services and financial derivative products listed on our website. Individuals accessing this website and registering a trading account do so entirely of their own volition and without prior solicitation.
By confirming your decision to proceed with entering the website, you hereby affirm that this decision was solely initiated by you, and no solicitation has been made by any Ultima Markets entity.
I confirm my intention to proceed and enter this websiteนักเทรดหลายคนมักเข้าใจผิดว่า “ความสำเร็จในตลาด” ขึ้นอยู่กับการมีกลยุทธ์ที่ดีเท่านั้น แต่ความจริงคือ… แม้แต่กลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็ “ล้มเหลวได้” หากนักเทรดขาดวินัยทางจิตใจ
เหตุผลที่จิตวิทยาการเทรดมีความสำคัญ:
การเข้าใจความท้าทายทางจิตใจที่พบบ่อยจะช่วยให้นักเทรดรู้เท่าทันและแก้ไขพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือกับดักทางจิตวิทยาที่พบได้บ่อยที่สุดในการเทรด:
ความกลัวว่าจะขาดทุนทำให้นักเทรดลังเลที่จะเปิดหรือปิดออเดอร์ ผลที่ตามมา: พลาดโอกาสในการทำกำไร หรือปิดกำไรเร็วเกินไป
ความโลภผลักดันให้นักเทรดเสี่ยงเกินควร เช่น ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป หรือถือออเดอร์นานเกิน ความมั่นใจมากเกินไปทำให้นักเทรดละเลยหลักการจัดการความเสี่ยง คิดว่าความสำเร็จในอดีตจะเกิดซ้ำเสมอ
นักเทรดจำนวนมากรีบเข้าเทรดเพราะเห็นกราฟเคลื่อนไหวแรง และกลัวพลาดโอกาส สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือ เข้าตลาดช้าเกินไปในจุดที่ราคาขึ้นไปสูงแล้ว และต้องเผชิญกับการกลับตัว
หลังจากขาดทุน นักเทรดบางคนพยายามเอาคืนทันทีด้วยการเปิดออเดอร์แบบหุนหันพลันแล่น ผลลัพธ์: ขาดทุนมากขึ้นและเกิดความเครียดสะสม
การขาดทุนเป็นเรื่องปกติในการเทรด แต่บางคนไม่สามารถยอมรับได้ แทนที่จะปิดออเดอร์เมื่อผิดทาง กลับถือขาดทุนไว้นาน หวังว่าตลาดจะกลับตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การล้างพอร์ต
แม้ว่าจะมีกลยุทธ์ดีแค่ไหน แต่ถ้านักเทรดไม่ทำตามแผนการที่วางไว้ ผลลัพธ์ก็จะไม่สม่ำเสมอ การเทรดตามอารมณ์ชั่ววูบ ทำให้หลุดกรอบกลยุทธ์ที่วางไว้
การฝึกฝนจิตวิทยาการเทรด สำคัญไม่แพ้ การเรียนรู้การวิเคราะห์กราฟหรือปัจจัยพื้นฐาน หากไม่มีวินัยทางจิตใจ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้ การเข้าใจอารมณ์ตนเองและเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ จะช่วยให้นักเทรดพัฒนาผลงานและประสบความสำเร็จในระยะยาว
อารมณ์มีบทบาทอย่างมากต่อการตัดสินใจของนักเทรด ตลาดการเงินขับเคลื่อนด้วยจิตวิทยาของมนุษย์ และนักเทรดส่วนใหญ่มักจะตอบสนองตามอารมณ์มากกว่าตรรกะ การเข้าใจผลกระทบของอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความหงุดหงิด และความมั่นใจเกินเหตุ จะช่วยให้นักเทรดควบคุมการตัดสินใจของตนเองได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการเทรด
ความกลัวเป็นอารมณ์ที่ทรงพลังที่สุดในการเทรด ซึ่งสามารถแสดงออกในหลายรูปแบบ เช่น:
ความโลภทำให้นักเทรดเสี่ยงเกินความเหมาะสม โดยหวังจะได้กำไรมากที่สุด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมต่อไปนี้:
การสร้างสมดุลระหว่างความกลัวและความโลภเป็นสิ่งสำคัญมาก นักเทรดควรควบคุมอารมณ์และปฏิบัติตามแผนการเทรดที่วางไว้อย่างมีวินัย แทนที่จะปล่อยให้อารมณ์ควบคุมการกระทำ
ความมั่นใจเกินเหตุ (Overconfidence) มักเกิดขึ้นหลังจากที่นักเทรดประสบความสำเร็จต่อเนื่องจากหลายออเดอร์ เมื่อเป็นเช่นนี้ นักเทรดอาจเริ่มเชื่อว่าตนเอง “ไม่มีวันแพ้” และเริ่มรับความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่รุนแรง
อันตรายของความมั่นใจเกินเหตุ ได้แก่:
นักเทรดที่มีวินัยจะไม่หลงระเริงกับความสำเร็จในอดีต แต่จะยังคงประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และรักษาความถ่อมตนอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ประมาทในอนาคต
FOMO หรือ “ความกลัวที่จะพลาดโอกาส” เป็นปัจจัยทางจิตวิทยาที่กระตุ้นให้นักเทรดตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น เพราะกลัวจะพลาดจังหวะทำกำไร โดยมักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรืออยู่ในแนวโน้มที่ชัดเจน
ผลเสียที่เกิดจาก FOMO ได้แก่:
นักเทรดที่ประสบความสำเร็จจะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในกระแสของตลาด แต่จะรอจังหวะที่ตรงกับกลยุทธ์ของตนอย่างมีวินัย โดยไม่ให้ “อารมณ์” มาชี้นำการเทรด
การขาดทุนจากการเทรดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่กำหนดความสำเร็จในระยะยาวคือ “ปฏิกิริยา” ของนักเทรดต่อความสูญเสียนั้น
ความหงุดหงิดมักนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น:
วิธีรับมือกับความหงุดหงิด: พักจากการเทรดชั่วคราวหลังจากขาดทุน ทบทวนข้อผิดพลาดอย่างมีเหตุผลโดยไม่ใช้อารมณ์ และ ยึดมั่นในแผนการเทรดเดิม และอย่าให้ความรู้สึกมาชี้นำการตัดสินใจ
จิตวิทยาการเทรดที่แข็งแรงคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว นักเทรดจำนวนมากมุ่งเน้นเพียงแค่การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือพื้นฐาน แต่ละเลยด้านจิตใจ ซึ่งในความเป็นจริง การมี ความอดทน ความมีวินัย และความยืดหยุ่นทางอารมณ์ ต่างหากที่แยกนักเทรดที่ประสบความสำเร็จออกจากผู้ที่ล้มเหลวซ้ำซาก
วินัยคือสิ่งที่ช่วยให้นักเทรดไม่ตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น มันช่วยให้นักเทรดทำตามแผนอย่างมีระบบ แทนที่จะถูกครอบงำด้วยอารมณ์หรือข่าวสารรบกวนจากตลาด
องค์ประกอบสำคัญของวินัยในการเทรด ได้แก่:
แม้แต่กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดก็สามารถล้มเหลวได้หากขาดวินัย เนื่องจากการดำเนินการที่ไม่เป็นระบบและการตัดสินใจที่ไม่เสถียร
ความอดทนเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของ “จิตวิทยาการเทรด” ที่แข็งแกร่ง
นักเทรดหลายคนรีบเข้าตลาดเพราะ FOMO หรือความหงุดหงิด ส่งผลให้เกิดการขาดทุนโดยไม่จำเป็น
นักเทรดที่มีความอดทนจะ:
การเทรดคือ “เกมของความน่าจะเป็น” และความอดทนจะช่วยให้นักเทรดเลือกเสี่ยงเฉพาะเมื่อมีโอกาสสูงเท่านั้น
ความยืดหยุ่นทางอารมณ์ช่วยให้นักเทรดยังคงมีสติและเหตุผล แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือบัญชีขาดทุน
วิธีพัฒนา Emotional Resilience ได้แก่:
การเทรดสามารถสร้างความเครียดได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนหรือมีการขาดทุนต่อเนื่อง หากจัดการไม่ดี อาจนำไปสู่การเทรดตามอารมณ์และขาดทุนมากขึ้น
เทคนิคจัดการความเครียดที่ได้ผล ได้แก่:
การลดระดับความเครียดจะช่วยให้นักเทรดคิดอย่างชัดเจน และตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลมากกว่าอารมณ์
Growth Mindset คือความเชื่อที่ว่า “ทักษะและความรู้สามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้”
นักเทรดที่มี Growth Mindset จะมีลักษณะดังนี้:
นักเทรดที่มีทัศนคติแบบเติบโตมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มากกว่าการมุ่งหวังแค่ผลลัพธ์ในระยะสั้น
นักเทรดหลายคนประสบปัญหากับการจัดการความเสี่ยง เพราะอารมณ์เข้ามาบดบังการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล อารมณ์ที่พบบ่อยและส่งผลต่อการรับความเสี่ยง มีดังนี้:
อารมณ์แบบนี้ทำให้นักเทรดกล้าเสี่ยงน้อยเกินไป ส่งผลให้พลาดโอกาสทำกำไรสูง ออกจากการเทรดเร็วเกินไป ทำให้ได้กำไรน้อย หรือ ลังเลที่จะเข้าเทรด จนพลาดโอกาสที่ดี
หลังจากมีกำไรต่อเนื่อง บางคนเริ่มเสี่ยงมากเกินไป ใช้เลเวอเรจสูงเกินควร ทำให้ขาดทุนหนัก หรือ ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss) เพราะเชื่อว่าราคา “จะกลับมา”
เมื่อขาดทุน บางคนจะเพิ่มความเสี่ยงเพื่อ “เอาคืน” อย่างรวดเร็ว มักนำไปสู่การขาดทุนเพิ่มขึ้น หรือ ขาดวินัยในการบริหารความเสี่ยง ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด
นักเทรดบางคนระมัดระวังมากเกินไปหลังจากขาดทุน ไม่กล้าเข้าเทรดแม้มีโอกาสที่ดี ทำให้พอร์ตไม่เติบโต หรือ กลัวขาดทุนจนออกจากออเดอร์เร็วเกินไป ทำให้เสียโอกาสในการทำกำไร
การควบคุมอารมณ์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีเหตุผลและสม่ำเสมอ
การวางแผนการบริหารความเสี่ยงที่ดีควรมี การกำหนดขนาดการลงทุน (Position Sizing) ที่เหมาะสมกับเงินทุนและระดับความเสี่ยงที่รับได้ และ การตั้ง Stop-Loss เพื่อจำกัดขาดทุนในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ โดยไม่ให้อารมณ์มามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเทรด
นักเทรดควรกำหนดว่าจะใช้เงินทุนเท่าไหร่กับแต่ละออเดอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในจุดเดียวมากเกินไป กฎยอดนิยมคือ ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1–2% ของบัญชีต่อหนึ่งการเทรด วินัยในเรื่องนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถอยู่ในตลาดได้ แม้จะขาดทุนต่อเนื่องหลายครั้ง
กลยุทธ์ Stop-Loss: การจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
คำสั่ง Stop-Loss คือเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยง ช่วยให้นักเทรดออกจากออเดอร์ที่ขาดทุนก่อนที่การขาดทุนจะมากเกินไป กลยุทธ์หลักของการตั้ง Stop-Loss ได้แก่:
การใช้ Stop-Loss อย่างถูกต้องช่วยลดการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์ และสนับสนุนให้คุณทำตามแผนการบริหารความเสี่ยงที่วางไว้ล่วงหน้า
การเทรดเป็นเกมแห่งความน่าจะเป็น ไม่มีกลยุทธ์ใดที่ ชนะได้ 100% แม้แต่นักเทรดที่เก่งที่สุดก็ยังขาดทุนได้ การเข้าใจหลักความน่าจะเป็นและความคาดหวัง จะช่วยให้นักเทรดมีความแข็งแกร่งทางจิตใจ และไม่ตัดสินใจจากอารมณ์
นักเทรดไม่จำเป็นต้องมีอัตราการชนะสูงเพื่อทำกำไรได้ กลยุทธ์ที่มีอัตราการ ชนะเพียง 40% ก็สามารถสร้างกำไรได้ หากอัตรา Risk-Reward เป็น 1:3 (เช่น เทรดที่ชนะได้กำไร 3 เท่าของที่ขาดทุน)
การโฟกัสที่ “ความน่าจะเป็นในระยะยาว” แทนที่จะหมกมุ่นกับผลของแต่ละออเดอร์ จะช่วยลดความเครียดและการเทรดแบบใช้อารมณ์
นักเทรดควรมองผลลัพธ์ในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น การเทรดที่ขาดทุนไม่ได้หมายความว่ากลยุทธ์นั้นล้มเหลว เพราะการขาดทุนคือส่วนหนึ่งของกระบวนการ เป้าหมายคือ “การปฏิบัติตามแผนอย่างสม่ำเสมอ” โดยรู้ว่าในระยะยาว ความได้เปรียบของกลยุทธ์จะส่งผลให้เกิดกำไร
นักเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ผู้ที่หลีกเลี่ยงการขาดทุน แต่คือผู้ที่บริหารความเสี่ยงได้อย่างมีวินัยทางจิตใจ
อารมณ์อย่างความกลัว ความโลภ และความมั่นใจเกินไปสามารถทำลายแผนการบริหารความเสี่ยงได้อย่างง่ายดาย
แต่หากควบคุมความเสี่ยงต่อเทรด ใช้คำสั่ง Stop-Loss และคิดแบบนักสถิติ นักเทรดก็จะสามารถสร้างแนวคิดที่สนับสนุนการทำกำไรในระยะยาวได้
Ultima Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบมัลติแอสเซ็ต ให้คุณเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินกว่า 250 รายการ เช่นคู่เงิน, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี และหุ้น ด้วย สเปรดต่ำและการดำเนินการที่รวดเร็ว
ปัจจุบัน Ultima Markets ให้บริการลูกค้าจากกว่า 172 ประเทศทั่วโลก ด้วยระบบที่มั่นคงและเชื่อถือได้
Ultima Markets ได้รับรางวัลมากมายในปี 2024 เช่นรางวัลโบรกเกอร์พันธมิตรยอดเยี่ยม (Best Affiliates Brokerage) ความปลอดภัยด้านกองทุนยอดเยี่ยม (Best Fund Safety – Global Forex Awards) และโบรกเกอร์ CFD ยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Best APAC CFD Broker – Traders Fair Hong Kong 2024)
Ultima Markets ยังเป็น โบรกเกอร์ CFD รายแรก ที่เข้าร่วม ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) แสดงถึงความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนและการให้บริการทางการเงินอย่างมีจริยธรรม
Ultima Markets เป็นสมาชิกของ The Financial Commission องค์กรอิสระที่ดูแลการระงับข้อพิพาทในตลาด Forex และ CFD
ลูกค้าทุกคนยังได้รับการคุ้มครองประกันภัยจาก Willis Towers Watson (WTW) บริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลก ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบัญชี
เปิดบัญชีกับ Ultima Markets วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางเทรด CFD ดัชนีของคุณ!
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และมิได้ถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำทางวิชาชีพอื่นใด อีกทั้งไม่ควรถือว่าข้อความหรือความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้เป็นการแนะนำจาก Ultima Markets หรือผู้เขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุน กลยุทธ์ หรือธุรกรรมเฉพาะใดๆ ผู้อ่านไม่ควรพึ่งพาเนื้อหานี้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจลงทุน และควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระหากเห็นสมควร